Sunday, January 14, 2018

Great Unclean One (part 1)

Here is a bit progress on Great Unclean One. I've already finished painting all the base colors for the whole piece and applied some basic shadows and highlights by using an airbrush. It was the first time I used the airbrush for painting miniatures, I usually use it for painting AFV models or apply clear coat on the finished miniatures or figures. 

In my opinion. using the airbrush for painting miniatures is quite different from using it for painting AFV models. Miniatures need more shadow and highlight than AFV models, in order to make all the details stand out and look more interesting so it requires many layers of colors to build up the contrast between light and shadow. 

It took me several hours to finish the painting, and I still have to learn a lot more about controlling and making precise lines with the airbrush. However, airbrush is a handy tool and helpful if you want to finish the project a lot faster especially for a huge miniature like this one. Maybe in the future, if I have a lot more experiences in using the airbrush, I'll probably finish all the shadow and highlight and only do the final touches with a paintbrush. 

After this, it's going to be painted only with the paintbrush. I already have the image of the finished mini in my mind and it will look a lot different from this stage. It still a long way to go and I'll post more progress soon.

ความคืบหน้าเล็กน้อยของ Great Unclean One ครับ เนื่องจากขนาดชิ้นงานที่ใหญ่มาก ในครั้งนี้เลยได้ลองใช้แอร์บรัชในการพ่นสีงานมิเนียเจอร์ดูบ้างครับ ปกติแล้วผมจะใช้แอร์บรัชในการพ่นสีงานพลาสติกโมเดลประเภทรถถังเป็นหลัก ส่วนงานมิเนียเจอร์จะใช้แอร์บรัชเฉพาะในการพ่นสีเคลียร์สำหรับเคลือบผิวงานตอนจบงานเท่านั้น เพราะงานมิเนียเจอร์ส่วนมากจะมีขนาดเล็กจึงสามารถใช้การเพนท์ด้วยพู่กันเพียงอย่างเดียวได้สะดวก แต่กับงานที่มีขนาดใหญ่มากอย่างงานชิ้นนี้ การใช้แอร์บรัชช่วยในการพ่นสีส่วนต่างๆ ก็จะช่วยประหยัดเวลาในการทำงานไปได้มากเลยครับ

สำหรับสีที่ผมใช้ในการพ่นเป็นสี Vallejo Model Air กับ Vallejo Game Air ครับ และนำมาพ่นส่วนของสีพื้นทั้งหมดบนชิ้นงาน รวมถึงพ่นสีจำลองแสงและเงาเบื้องต้น ก่อนที่จะนำไปเพนท์เก็บรายละเอียดต่อในภายหลังครับ 

ผมใช้เวลาในการพ่นสีทั้งหมดประมาณ 3 ชั่วโมง ซึ่งส่วนตัวแล้วคิดว่าการพ่นสีงานมิเนียเจอร์กับงานรถถังมันแตกต่างกันพอสมควร เพราะงานมิเนียเจอร์จะต้องการความชัดเจนของแสงและเงามากกว่า เพื่อเน้นรายละเอียดต่างๆบนชิ้นงานและทำให้มันดูน่าสนใจมากขึ้น ดังนั้นการพ่นสีงานประเภทนี้จึงต้องพ่นสีหลายรอบเพื่อไล่ระดับสีจากอ่อนไปแก่ และสร้างความคมชัดระหว่างส่วนของแสงและเงา และการพ่นสีงานประเภทนี้จะใช้การพ่นแบบฟรีแฮนด์เป็นหลัก จึงต้องอาศัยความชำนาญในการใช้แอร์บรัชพอสมควร ซึ่งตัวผมเองก็ยังทำได้ไม่ดีนักและคงจะต้องฝึกเรื่องของการควบคุมการพ่นอีกมากพอสมควร โดยเฉพาะเรื่องของการพ่นรีดเส้นครับ

อย่างไรก็ดี การใช้แอร์บรัชในการพ่นสีมิเนียเจอร์ก็ช่วยให้การทำงานนั้นสะดวกและทำงานได้รวดเร็วมากขึ้น โดยเฉพาะกับงานขนาดใหญ่แบบนี้ และถ้าหากฝึกฝนจนชินกับการใช้สีอะครีลิคในการพ่นสี รวมถึงสามารถควบคุมการใช้แอร์บรัชได้เป็นอย่างดีแล้ว ก็คงช่วยลดขั้นตอนในการทำงานลงไปได้มาก อาจจะใช้พู่กันเพียงแค่การเพนท์เก็บรายละเอียดก่อนจบงานเท่านั้น รวมถึงคงจะนำไปใช้ในการพ่นสีบนชิ้นงานที่เล็กกว่านี้ได้สะดวกมากขึ้นด้วยครับ

หลังจากนี้แล้วผมก็คงจะมานั่งเพนท์สีเก็บรายละเอียดต่างๆด้วยพู่กันอีกที ส่วนตัวมีภาพที่คิดเอาไว้ในหัวอยู่แล้วว่าอยากจะให้งานนั้นออกมาในรูปแบบไหน ซึ่งถ้าเสร็จแล้วคงจะดูแตกต่างจากภาพในขั้นตอนนี้พอสมควร และตอนนี้ก็ยังเหลือรายละเอียดอีกมากที่ยังต้องทำ หลังจากนี้คงจะทยอยนำความคืบหน้ามาให้ชมกันเรื่อยๆครับ 







1 comment:

  1. Any chance you could talk us through the colours used?

    ReplyDelete